นอนเยอะแต่ยังง่วงทั้งวัน? อาจเป็น "ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ" ที่คุณไม่รู้ตัว

หลายคนเข้าใจว่าอาการง่วงระหว่างวันเป็นผลจากการนอนดึกหรือนอนไม่พอเพียงเท่านั้นแต่ความจริงแล้ว การนอนหลับไม่เต็มประสิทธิภาพจาก "ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea)" ก็อาจเป็นต้นเหตุสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

1. สัญญาณเตือนจากร่างกาย

• แม้จะนอนเต็ม 7-9 ชั่วโมงต่อคืน แต่ยังรู้สึกง่วง เพลีย หรือหลับในระหว่างวัน

• มีเสียงกรนดัง และบางครั้งมีช่วงที่หายใจเงียบไปชั่วขณะ (คนข้าง ๆ มักเป็นคนสังเกตเห็น)

• ตื่นมาแล้วรู้สึกปวดหัว หรือปากแห้ง

อาการเหล่านี้อาจบ่งบอกว่า คุณมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับโดยไม่รู้ตัว

2. ใครบ้างที่เสี่ยง?

• ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน หรืออ้วน

• ผู้ที่มีโครงสร้างใบหน้า หรือคอที่ทำให้ทางเดินหายใจแคบ

• เพศชาย (มีโอกาสเป็นมากกว่าผู้หญิง)

• ผู้ที่นอนกรนเสียงดังเป็นประจำ

• ผู้สูงอายุ

3. ภาวะหยุดหายใจขณะหลับเกิดจากอะไร?

ในขณะหลับ กล้ามเนื้อบริเวณคอและทางเดินหายใจจะหย่อนตัวหากหย่อนมากเกินไปจะทำให้ช่องทางเดินอากาศตีบหรือปิดชั่วขณะส่งผลให้ร่างกายขาดออกซิเจนเป็นระยะ ๆ ตลอดคืนแม้สมองจะพยายามปลุกให้หายใจใหม่ แต่การนอนจะถูกขัดจังหวะตลอดเวลา

4. ถ้านอนเยอะแต่ยังง่วง ควรทำอย่างไร?

• ตรวจ Sleep Test เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ว่าเกิดจากปัญหาการนอนหลับหรือไม่

• หากพบว่ามีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ เครื่อง CPAP(Continuous Positive Airway Pressure) เพื่อเปิดทางเดินหายใจให้โล่งตลอดคืน

ผู้ที่ใช้เครื่อง CPAP อย่างเหมาะสม จะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนนอนหลับลึกขึ้น ตื่นมาสดชื่นขึ้น และอาการง่วงระหว่างวันจะค่อย ๆ หายไป

5. สรุป

• การนอนเยอะแต่ยังง่วง เป็นสัญญาณที่ควรใส่ใจ

• ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ เป็นหนึ่งในสาเหตุที่พบได้บ่อย

• ปัญหานี้ไม่เพียงแต่กระทบคุณภาพชีวิต แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ความดันสูง และอุบัติเหตุจากการง่วงหลับใน

หากคุณหรือคนในครอบครัวมีอาการดังกล่าว ควรรีบเข้ารับการตรวจเพื่อหาทางรักษาอย่างเหมาะสม